5 มิลลิกรัม ส่วนผู้ที่ตั้งครรภ์หรือวางแผนมีบุตรไม่ควรรับประทานอาหารเสริมที่มีวิตามินเอ ควรตรวจดูสารอาหารจำพวกกรดไขมันอีพีเอและกรดไขมันดีเอชเอ โดยต้องบริโภคสารอาหารดังกล่าววันละ 450 มิลลิกรัม ควรเลือกอาหารเสริมโอเมก้า 3 ที่เหมาะสมกับอายุ
2. (น. พ. จักรกริช กล้าผจญ ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) 3. หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ คอลัมภ์โภชนการเพื่อชีิวิตที่ดีกว่า ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม 2542 4. Charles RH, et al. Beyond the Mediterranean Diet: The Role of Omega-3 Fatty Acids in the Prevention of Coronary Heart Disease. Prev Cardiol. 2003;6(3):136-146.
5-0. 7 กรัมต่อวัน อายุ 4-13 ปี ควรได้รับประมาณ 0. 9-1. 2 กรัมต่อวัน ผู้มีอายุ 14 ปีขึ้นไป เพศชาย ควรได้รับประมาณ 1. 6 กรัมต่อวัน เพศหญิง ควรได้รับประมาณ 1. 1 กรัมต่อวัน หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรได้รับประมาณ 1. 4 กรัมต่อวัน การเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 จะช่วยให้ร่างกายได้รับกรดไขมันจำเป็นเหล่านี้ครบถ้วน เช่น แซลมอน 100 กรัม มีโอเมก้า 3 ประมาณ 2. 2 กรัม หอยนางรม 100 กรัม มีโอเมก้า 3 ประมาณ 0. 6 กรัม เมล็ดแฟลกซ์ 1 ช้อนโต๊ะ มีโอเมก้า 3 ประมาณ 7. 1 กรัม ถั่วเหลือง 100 กรัม มีโอเมก้า 3 ประมาณ 1.
เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงพอจะทราบถึงประโยชน์มากมายของโอเมก้า-3 กันมาบ้างแล้ว ที่โดดเด่นเห็นจะเป็นประโยชน์ต่อหัวใจและสมอง โอเมก้า-3 ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาระบบประสาทและสมองของเด็ก รวมถึงลดความเสี่ยงต่ออัลไซเมอร์ และมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย แต่รู้หรือไม่? พันธุกรรม หรือ DNA ส่งผลให้เราแต่ละคนสามารถนำโอเมก้า-3 ที่ได้รับจากอาหารไปใช้ได้ต่างกัน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า อาหารที่มีโอเมก้า-3 ชนิดใดที่เราควรรับประทาน เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารชนิดนี้อย่างเพียงพอ? คำตอบอยู่ในบทความนี้ค่ะ โอเมก้า-3 คืออะไร?
44 กรัม 14. ปลาสลิด มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0. 36 กรัม 15. ปลานิล มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.